ประกันสุขภาพ จำเป็นจริงหรือเปล่า? หรือเก็บเงินเองก็คุ้มกว่า? (2025 อัปเดต)
ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นทุกปี คำถามที่เจอบ่อยมากคือ:
“จำเป็นต้องซื้อประกันสุขภาพไหม? หรือเก็บเงินไว้เองดีกว่า?”
หลายคนรู้สึกว่าเบี้ยประกันดูเหมือนเปลืองเงิน แต่ความจริงแล้วมันมี ข้อดี-ข้อเสียที่ต้องชั่งน้ำหนักให้รอบด้าน โดยเฉพาะในปี 2025 ที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งขึ้นแทบทุกปี
ประกันสุขภาพคืออะไร?
ประกันสุขภาพ คือสัญญาที่บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนเรา ถ้าเกิดเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุตามเงื่อนไขกรมธรรม์
หลักๆ จะคุ้มครอง:
-
ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) → ค่าแอดมิท ค่าห้อง ค่าหมอ ผ่าตัด
-
ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) → ค่าหาหมอโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
-
ค่าผ่าตัดหรือทำหัตถการ
-
ค่ารักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง, หัวใจ
-
บางแผนคุ้มครองค่ารักษาที่ต่างประเทศ
ค่าใช้จ่ายจริงในปี 2025 แพงแค่ไหน?
ลองดู ค่ารักษาจริง ของโรคยอดฮิตในโรงพยาบาลเอกชนปัจจุบัน (โดยประมาณ):
-
ไส้ติ่งอักเสบ → ผ่าตัด
▸ 70,000 – 200,000 บาท -
ไข้เลือดออก นอน รพ. 3 วัน
▸ 30,000 – 60,000 บาท -
ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี
▸ 100,000 – 250,000 บาท -
ผ่าตัดมะเร็งเต้านม + คีโม
▸ 300,000 – 1,500,000 บาท -
โรคหัวใจขาดเลือด ทำบอลลูน
▸ 250,000 – 500,000 บาท
ถ้าเกิดป่วยกะทันหัน แล้วไม่มีเงินสำรองพอ อาจต้องใช้บัตรเครดิตกดเงินสด ดอกเบี้ยบานหนักกว่าเดิมอีก
ข้อดีของการมีประกันสุขภาพ
จ่ายเบี้ยไม่กี่พัน แต่คุ้มครองหลักแสน-ล้าน
-
เช่น เบี้ยปีละ 10,000-20,000 แต่ได้วงเงินค่ารักษา 1-5 ล้านบาท
ลดความกังวลเรื่องเงินตอนป่วย
-
เวลาป่วย เราจะได้โฟกัสกับการรักษามากกว่ากังวลค่าใช้จ่าย
มีตัวเลือกโรงพยาบาลดี ๆ
-
บางแผนครอบคลุมโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ
ช่วยวางแผนภาษีได้
-
เบี้ยประกันสุขภาพ สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี (ตามกฎหมายปี 2025)
ข้อจำกัดของประกันสุขภาพ
มีเงื่อนไขโรคที่ไม่คุ้มครอง (โรคที่เป็นมาก่อนซื้อ หรือ Pre-existing)
-
ถ้าป่วยก่อนทำประกัน บริษัทอาจไม่รับ หรือรับแบบยกเว้นโรคนั้น
เบี้ยแพงขึ้นตามอายุ
-
อายุเยอะ เบี้ยจะพุ่งสูง เช่น จาก 10,000 → 30,000-40,000 บาทต่อปี
ต้องอ่านรายละเอียดกรมธรรม์ให้ดี
-
บางแผนคุ้มครองน้อย เช่น ค่าห้องวันละ 2,000 บาท แต่ค่าห้องจริง 5,000 บาท ต้องจ่ายส่วนต่างเอง
แล้วเก็บเงินเองพอมั้ย?
หลายคนบอกว่า “ไม่ซื้อประกัน เก็บเงินเองก็ได้” ซึ่งก็จริงในบางเคส เช่น
-
ป่วยเล็กน้อย → ค่ารักษาหลักพัน-หมื่น
-
ไม่มีโรคประจำตัว → โอกาสป่วยหนักต่ำ
แต่ต้องไม่ลืมว่า ค่ารักษาโรคร้ายแรงสูงมาก เช่น
-
โรคหัวใจ → หลักแสน-ล้านบาท
-
มะเร็ง → หลักล้านได้สบาย
ถ้าเก็บเงินเอง ต้องมั่นใจว่ามี เงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 500,000 – 1,000,000 บาทขึ้นไป เพราะเหตุการณ์แบบนี้ไม่รอให้พร้อมเสมอ
แล้วเราควรเลือกประกันสุขภาพแบบไหน?
#1 กำหนดวงเงินค่าห้องที่เหมาะกับโรงพยาบาลที่อยากใช้
-
ค่าห้องปัจจุบัน รพ.เอกชนชั้นกลาง → 3,000 – 5,000 บ./คืน
-
รพ.เอกชนหรู → 7,000 – 15,000 บ./คืน
#2 ดูวงเงินค่ารักษาโดยรวม
-
แผนประหยัด → วงเงิน 500,000 – 1 ล้านบาท
-
แผนพรีเมียม → วงเงิน 5-100 ล้านบาท
#3 เช็กโรคร้ายแรงครอบคลุมมั้ย
-
มะเร็ง
-
หัวใจ
-
ไตวาย
-
โรคหลอดเลือดสมอง
#4 ซื้อแบบ “เหมาจ่าย” ดีที่สุด
ปัจจุบันมีประกันสุขภาพ แบบเหมาจ่าย → จ่ายตามจริง ไม่แยกหมวดวงเงิน เช่น:
-
ค่าห้อง
-
ค่าแพทย์
-
ค่ายา
-
ค่าผ่าตัด
แบบเหมาจ่ายสบายใจกว่าเยอะ ไม่ต้องมานั่งแยกว่าหมวดไหนเต็มแล้วบ้าง
สรุป… จำเป็นต้องซื้อประกันสุขภาพหรือไม่?
-
จำเป็นมากถ้างบพอ → ป่วยโรคร้ายครั้งเดียว อาจหมดเงินเก็บทั้งชีวิต
-
ถ้างบจำกัด → ซื้อแบบวงเงินปานกลางก็ยังดีกว่าไม่มี
-
เก็บเงินเองต้องมั่นใจว่ามีสำรอง 500,000 – 1,000,000 บาทขึ้นไป
ในความเป็นจริง คนไทยเจ็บป่วยไม่คาดฝันกันเยอะมาก บางเคสค่ารักษาพุ่งหลักล้านแบบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้น “ประกันสุขภาพ” คือการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยง ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายเปล่า
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCQ9I40T9S2DRQ
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 13 ก.ค. 2568 23:35 - 14 ก.ค. 2568 02:11
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCW9DYYFQWP0SY
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 12 ก.ค. 2568 17:00 - 12 ก.ค. 2568 19:36
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCV3K6LRSWFXJX
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 12 ก.ค. 2568 08:44 - 12 ก.ค. 2568 11:38
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCX9ZKKFWX7YDN
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 11 ก.ค. 2568 18:28 - 11 ก.ค. 2568 21:19
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award