รัฐบาลเตือนประชาชน อย่าตกเป็นนอมินีต่างชาติ เสี่ยงโทษหนักทั้งจำ-ปรับ ยึดทรัพย์
วันนี้ (7 กรกฎาคม 2568) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลขอเตือนประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกชักชวนให้เป็นนอมินี หรือถือหุ้นแทนคนต่างชาติ ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยสถิติจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ในแต่ละปี มีการตรวจสอบธุรกิจที่มีความเสี่ยงเข้าข่ายเป็นนอมินีตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 โดยเฉพาะกรณีที่คนไทยถือหุ้นแทน หรือสนับสนุนให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจต้องห้าม เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์ และโลจิสติกส์ ซึ่งมักพบมากในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ภูเก็ต ชลบุรี กรุงเทพมหานคร และเชียงใหม่
นายอนุกูล เปิดเผยว่า ล่าสุดศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษบุคคลและนิติบุคคลรวม 23 ราย ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายนอมินี ให้รับโทษปรับรายละ 200,000 บาท และรอการลงโทษจำคุก 2 ปี พร้อมกำหนดให้คุมความประพฤติ 1 ปี และมีคำสั่งให้จดทะเบียนเลิกบริษัท
ทั้งนี้ นายอนุกูลย้ำว่า การเอื้อให้คนต่างด้าวเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในไทยโดยผิดกฎหมาย ถือเป็นความผิดที่มีโทษทั้งจำคุก ปรับ และอาจถึงขั้นถูกยึดทรัพย์สิน
สำหรับบทลงโทษของผู้ที่ช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว มีรายละเอียดดังนี้
1. โทษจำคุก สูงสุดไม่เกิน 3 ปี
2. โทษปรับ ตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000 บาท และหากฝ่าฝืนคำสั่งศาล อาจถูกปรับเพิ่มอีกวันละ 10,000 - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกการกระทำ
3. การยึดทรัพย์หรือหุ้นที่ถูกถือแทนคนต่างด้าว หากพบว่าเกี่ยวข้องกับความผิดตามกฎหมาย
4. การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้อีก
“ธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว มักพยายามเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้คนไทยเป็นนอมินี โดยที่ไม่ได้ลงทุนหรือดำเนินธุรกิจจริง ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม ความไม่โปร่งใส และอาจนำไปสู่การฟอกเงิน กระทบภาพลักษณ์ของประเทศด้านการลงทุนและการประกอบธุรกิจ” นายอนุกูลกล่าว