แรงงานกัมพูชาผิดหวัง ฮุน มาเน็ต ขึ้นค่าแรงแค่ 2 ดอลลาร์ ไม่พอเลี้ยงชีพ
แรงงานในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง (GFT) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจกัมพูชา ออกมาแสดงความผิดหวังเมื่อวันพุธ (17 ก.ย.) หลังจากที่นายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต ประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเพียง 2 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 63 บาท) ต่อเดือนในปี 2026 ซึ่งน้อยกว่าข้อเรียกร้องจากสหภาพแรงงานอิสระ ที่ยืนยันว่าควรได้มากกว่านี้เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพจริง
ฮุน มาเน็ต ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ค่าแรงขั้นต่ำปี 2026 จะอยู่ที่ 210 ดอลลาร์ (ราว 6,666 บาท) จากเดิม 208 ดอลลาร์ (ราว 6,603 บาท) หลังจากเจรจากับสภาค่าแรงขั้นต่ำมาหลายสัปดาห์ ซึ่งมีทั้งตัวแทนแรงงาน นายจ้าง และกระทรวงแรงงานร่วม แต่แรงงานจำนวนมากมองว่าเป็นการเพิ่มที่ไม่เป็นธรรม และไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับภาวะเงินเฟ้อ
คนงานหลายรายเปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า การขึ้นค่าแรงเพียงเล็กน้อยนั้นไม่สะท้อนความจริงที่ว่า ค่าใช้จ่ายต่อเดือนเฉลี่ยสูงถึง 408 ดอลลาร์ (ราว 12,900 บาท) เกือบสองเท่าของรายได้ที่แท้จริงราว 205 ดอลลาร์ต่อเดือน ทำให้แรงงานกว่า 76% ต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อประคองชีวิต
สหภาพแรงงานอิสระ GFT เคยเรียกร้องให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นไปที่ 232 ดอลลาร์ (ราว 7,360 บาท) ต่อเดือน แต่ถูกปฏิเสธโดยนายจ้างซึ่งอ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาตามแนวชายแดนไทย การไหลกลับของแรงงาน และมาตรการทางการค้าจากสหรัฐฯ
Ath Thorn รองประธานสหภาพแรงงานประชาธิปไตยคนงานเครื่องนุ่งห่ม ระบุว่า การเพิ่มขึ้นเพียง 2 ดอลลาร์เป็นเรื่องไม่เพียงพอ และสะท้อนถึงความอ่อนแอของตัวแทนแรงงานที่ไม่สามารถกดดันให้นายจ้างยอมปรับค่าแรงได้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรม GFT จ้างแรงงานเกือบ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง และถือเป็นกำลังสำคัญของแรงงานในกัมพูชา ขณะที่แรงงานนอกระบบยังคงมีสัดส่วนสูงถึง 88%
#แรงงานกัมพูชา #ค่าแรงขั้นต่ำ #ฮุนมาเน็ต #GFT #เศรษฐกิจกัมพูชา #สิทธิแรงงาน