ประกันภัยรถยนต์ เลือกยังไงให้คุ้มสุด? (2025 อัปเดต) ไม่จ่ายเกินแต่คุ้มครองครบ

รู้หรือไม่? รถชนกันในไทยทุกๆ 2 นาที แต่คนจำนวนมาก ยังไม่มีประกันรถยนต์ หรือซื้อไม่ตรงกับความต้องการจริง ทำให้เสียเงินเบี้ยโดยใช่เหตุ หรือคุ้มครองไม่ครอบคลุมตอนเกิดเหตุจริง

วันนี้เรามาดู คู่มือเลือกประกันภัยรถยนต์ 2025 แบบละเอียด ครอบคลุมทุกข้อสงสัย ว่าประกันชั้นไหนเหมาะกับใคร และแบบไหนคุ้มสุด!

ประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท?

ในไทย แบ่ง ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ออกเป็น 5 ประเภทหลัก

ชั้น 1

คุ้มครองครอบจักรวาล

• ชนรถ ชนเสา ชนฟุตบาท ตัวเองผิดก็จ่าย

• รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เคลมได้

• ซ่อมห้าง (ศูนย์) หรือซ่อมอู่เลือกได้

• เหมาะกับรถใหม่ หรือมูลค่าสูง

เบี้ยแพงสุด
→ ปีละประมาณ 12,000 – 25,000 บาท (ขึ้นกับทุนประกันและรถ)

ชั้น 2+

คุ้มครองใกล้เคียงชั้น 1

• รถชนรถ (มีคู่กรณีเท่านั้น)

• รถหาย ไฟไหม้ ครอบคลุม

• ราคาถูกกว่าชั้น 1

ไม่คุ้มครองชนสิ่งไม่มีชีวิต (ต้นไม้ เสา ฟุตบาท) ถ้าตัวเองผิด
→ เบี้ยปีละประมาณ 7,000 – 13,000 บาท

ชั้น 3+

คุ้มครองรถชนรถ (มีคู่กรณี)

• ถูกกว่าชั้น 2+

• เหมาะกับรถอายุเกิน 5-7 ปี

ไม่คุ้มครองไฟไหม้ รถหาย
→ เบี้ยปีละประมาณ 4,000 – 7,000 บาท

ชั้น 2

คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้

• คุ้มครองชีวิต/ทรัพย์สินบุคคลภายนอก

ไม่คุ้มครองรถตัวเองเวลาชน
→ ปัจจุบันไม่ค่อยนิยม เพราะราคาต่างจาก 2+ ไม่มาก

ชั้น 3

ถูกที่สุด

• คุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอก

ไม่คุ้มครองรถตัวเองเลย
→ เบี้ยประมาณ 2,000 – 3,500 บาท/ปี

 แล้วควรเลือกชั้นไหน?

ข้อควรจำ:

• ถ้าใช้รถในเมือง รถติด มีโอกาสเฉี่ยวชนสูง → แนะนำอย่างน้อย 2+

• รถเก่ามากแล้ว ไม่ได้ใช้บ่อย → 3 หรือ 3+ ก็พอ

 ตัวอย่างค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ปี 2025

รถ Honda City ปี 2023