ใต้สายฝนที่โปรยปราย: เสียงสะท้อนแห่งความสิ้นหวังจากชายแดนคลองลึก-ปอยเปต
ที่ด่านพรมแดนถาวรบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว บรรยากาศที่เคยคึกคัก บัดนี้กลับเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด ถนนเปียกชื้นจากสายฝนสะท้อนภาพของผู้คนที่ทยอยกลับฝั่งไทย พวกเขาหอบหิ้วสัมภาระอันหนักอึ้ง ตอกย้ำถึงการสิ้นสุดชีวิตการทำงานในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทั้งความหวังและแหล่งรายได้สำคัญ
วิดีโอข่าวจากสำนักข่าวเนชั่นเผยให้เห็นความจริงอันเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่นี่ หลังรัฐบาลกัมพูชาเข้มงวดมาตรการปราบปรามแรงงานผิดกฎหมาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและชีวิตผู้คนจำนวนมาก
เสียงจากแรงงานไทย: “กลับบ้าน…เพราะไปต่อไม่ไหว”
ทีมข่าวได้พูดคุยกับหญิงไทยคนหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานในสถานบันเทิงที่ปอยเปตมากว่าสองปี เธอตัดสินใจเก็บข้าวของกลับบ้าน หลังเฝ้ารอความหวังว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ แต่สุดท้ายก็ไร้แวว
“เมื่อก่อนรายได้ดีมากค่ะ” เธอเล่า “นอกจากเงินเดือน ยังมีทิปจากนักท่องเที่ยว พอเลี้ยงดูลูกได้ แต่ตอนนี้เงียบมาก ลูกค้าหายหมด รายได้ก็ไม่พอใช้แล้ว”
ในแววตาเธอเต็มไปด้วยความกังวลต่ออนาคตที่ไม่แน่นอน เธอฝากข้อความถึงรัฐบาลไทยว่า “อยากให้รัฐบาลช่วยหางานที่มั่นคงและมีรายได้เหมาะสมให้บ้าง จะได้ไม่ต้องเสี่ยงไปทำงานฝั่งโน้นอีก” คำพูดของเธอคือเสียงสะท้อนของคนไทยอีกนับพันที่ยังคงตกค้างในปอยเปต ซึ่งต้องเลือกระหว่างการทนอยู่ในที่ที่ไร้รายได้ หรือกลับบ้านมาสู้กับความไม่แน่นอน
ผลกระทบระลอกสอง: คนขับรถตู้รอเก้อ 8 วัน ไร้ผู้โดยสาร
ผลกระทบไม่ได้จำกัดแค่แรงงานไทยเท่านั้น ผู้ประกอบอาชีพที่ต้องพึ่งพาผู้เดินทางข้ามพรมแดนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะคนขับรถตู้โดยสารที่จอดรอผู้โดยสารอยู่หน้าด่าน
คนขับรถตู้รายหนึ่งเปิดใจกับทีมข่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ “หนักหนากว่าตอนโควิด-19 ระบาดเสียอีก” เขาเล่าว่าบางครั้งต้องจอดรถรอเก้อนานถึง 8 วัน โดยไม่มีผู้โดยสารแม้แต่คนเดียว แต่ค่าใช้จ่ายยังคงต้องจ่าย ทั้งค่าเช่าที่จอดรถและค่างวดรถที่ค้างมาแล้วสามเดือน
“ตอนนี้ต้องขับรถเปล่าไปรับคนที่สนามบิน เผื่อจะเจอคนกลับมาบ้าง” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง “อยากให้รัฐบาลช่วยเหมือนตอนโควิด เช่น พักหนี้ หรือลดดอกเบี้ย จะได้ประคองอาชีพต่อได้”
อีกด้านหนึ่ง: คำสัญญาที่ว่างเปล่าของแรงงานกัมพูชา
ขณะเดียวกันที่แรงงานไทยทยอยกลับบ้าน คนขับรถตู้คนเดิมเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวอีกด้าน เขาพูดถึงเพื่อนชาวกัมพูชาที่เคยทำงานในไทย แต่ตัดสินใจกลับประเทศ เพราะเชื่อคำประกาศของรัฐบาลกัมพูชาที่สัญญาว่าจะจัดหางานให้
“เพื่อนโทรมาร้องไห้เลย” เขาเล่า “เขาบอกว่าเสียใจที่กลับไป ถูกหลอกให้ไปทำงานก่อสร้างกับนายทุนจีน ได้ค่าแรงแค่วันละ 250 บาท แถมทำมา 5 วันแล้ว ยังไม่ได้เงินสักบาท เขาบอกว่าที่ไทยยังหาเงินได้ดีกว่านี้เยอะ”
เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเจ็บปวด ซึ่งไม่ได้กระทบแค่คนชาติใดชาติหนึ่ง หากแต่เป็นชะตากรรมร่วมของผู้คนหาเช้ากินค่ำในพื้นที่ชายแดนแห่งนี้
ภาพรวมของด่านคลองลึกในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่ภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา หากแต่คือภาพความฝันที่พังทลาย ความหวังที่ริบหรี่ และเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างสิ้นหวัง จากผู้คนที่กำลังเผชิญมรสุมชีวิตครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCF5TWJ7ZBIW1B
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 11 ก.ค. 2568 14:45 - 11 ก.ค. 2568 17:16
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award
ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
รับโค้ดฟรี : PPCPJV2S6H7L4Z3
มูลค่า : 0.01 บาท
ระยะเวลา : 10 ก.ค. 2568 22:54 - 11 ก.ค. 2568 01:24
ใส่โค้ดที่ : https://www.adrepay.com/activity/facebook/award